รีวิวท่องเที่ยว เดินทาง กางเต็นท์

กางเต็นท์สระบุรี อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น

วันที่ 16-17 กรกฏาคม 2565 (ฤดูฝน)

ชีวิตมนุษย์เงินเดือนอย่างผมก็รอเพียงวันหยุด ไม่ใช่แค่ผมหยุดคนเดียว ต้องหยุดทั้งครอบครัวด้วย ถึงจะได้เวลาออกเดินทาง ครั้งนี้เป็นการเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น จังหวัดสระบุรี

อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่นนี้ เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใกล้บ้านผมมากที่สุดแล้ว แต่ผมก็ไม่เคยไปเที่ยวแม้แต่ครั้งเดียว นี่แหล่ะที่เขาเรียกว่า “ใกล้เกลือ กินด่าง”

ด้วยระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตรจากบ้าน ใช้เวลาเดินทางแบบสบายๆ ไม่ต้องรีบร้อนอะไร แค่ชั่วโมงเดียวก็ถึง

เมื่อถึงอุทยาน ก็จอดรถที่จุดตรวจและชำระค่าบริการ หากใครมีสมุดพาสปอร์ตอุทยานก็นำมาประทับตราได้ที่นี่

ค่าบริการ คนละ 20 บาท ค่ากางเต็นท์ 30 บาท/คืน ค่ารถเข้า 30 บาท/คัน

เราชำระค่าบริการเรียบร้อยแล้ว ก็ขับรถเข้าไปอีกเล็กน้อย จะพบอ่างเก็บน้ำเขารวก ริมอ่างเก็บน้ำก็จะเห็นเพื่อนๆ หลายคนมากางเต็นท์กันอย่างสงบ

ผมชอบไปกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติ ก็ตรงที่บรรยากาศเงียบสงบ แต่ลูกผมก็ไม่ค่อยชอบด้วยวัยเด็กก็ต้องมีสิ่งที่สนุกสนานตามวัยของเขา ในบางครั้งผมก็ต้องพาไปแคมป์ปิ้งลานเอกชน ที่มีน้ำให้เล่นด้วย

ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น ช่วงเดือน กรกฎาคม นี้ยังไม่มีน้ำไหลจากน้ำตก เราจึงได้แค่กางเต็นท์ที่ลานกางเต็นท์เท่านั้น

ผมจอดรถริมถนนตรงจุดที่ขนของลง และนำรถเข็ญที่เขามีไว้บริการนำมาใส่ของสัมภาระต่างๆ ที่จะนำไปกางเต็นท์

จุดกางเต็นท์ที่ผมเล็งเอาไว้ ตอนนี้คนที่มากางเต็นท์ก่อนหน้ากำลังเก็บเต็นท์ ผมจึงรีบนำของไปวางไว้ใกล้ๆ กับร่มไม้ด้านหลัง

เรามีโอกาสพูดคุยกันเล็กน้อยแต่ก็ถูกคอ นี่คงเป็นมิตรภาพจากคนแปลกหน้าที่มักพบเจอในสถานที่ท่องเที่ยวทั่วเมืองไทย

ผมรีบกางเต็นท์ให้เร็วที่สุด เนื่องจากอากาศร้อนอบอ้าวมาก แต่เนื่องจากเรากางเต็นท์กันมาหลายครั้งแล้ว ทำให้การกางเต็นท์สระบุรีในครั้งนี้ ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร

เมื่อกางเต็นท์เสร็จแล้ว ก็ต้องหาน้ำดื่มแก้กระหายคลายร้อน เพราะอากาศมันร้อนมากมาย ผมกับลูกก็เดินไปซื้อน้ำดื่มจากร้านค้าสวัสดิการของอุทยาน

นอกจากร้านค้าสวัสดิการแล้วยังมี ร้านกาแฟ น้ำปั่น ของอุทยานด้วย ราคาแก้วละ 50 บาท หากเรานำแก้วไปใส่เองจะลดราคา 5บาท เหลือแก้วละ 45 บาทเท่านั้น รสชาติกาแฟ เอสเพรสโซ่ หวานน้อย อร่อยถูกปากมาก

มื้อกลางวันเราก็ทานอาหารที่เตรียมมา อย่างข้าวเหนียวไก่ย่าง แล้วก็นอนเล่นในร่มเงาเท่าที่มี อากาศบอกได้อย่างเดียวว่าร้อน และก็อบอ้าว เหมือนฝนจะตก

พอเราขนย้ายเก้าอี้ไปใต้ร่มไม้ ฝนก็ตกลงมา เราก็ขนย้ายเข้ามาในทาร์ป และฝนก็หยุด เป็นแบบนี้ 2 ครั้ง จนเราไม่ออกจากทาร์ปแล้ว

ช่วงเย็นๆ อากาศเริ่มเย็นสบายขึ้นจากสายลมที่พัดเอาไอเย็นจากฝนที่ไหนผ่านมาสักแห่งหนึ่ง ทำให้เรารู้สึกดี

ผมรีบไปอาบน้ำก่อน เพราะกลัวว่าจะมืด และคนจะเยอะ ห้องน้ำสะอาดมาก และน้ำก็เย็นสบายสดชื่น

ตอนเย็นเราทำอาหารกินกันเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่นแห่งนี้ไม่ได้เข้มงวดเรื่องการทำอาหารมากนัก และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็รู้กฏข้อนี้ดีว่าควรทำอะไรได้บ้างกับสถานที่แบบนี้

กลางคืน ผมตกลงว่าจะนอนข้างนอกบนเตียงสนาม และให้ลูกเมียนอนในเต็นท์ เพื่อลดความอึดอัด เนื่องจากอากาศร้อนอบอ้าว

เมื่อผมกำลังเคลิ้มหลับไป ประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง ก็ได้ยินเสียงฟ้าร้อง และฝนก็กระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย แรงลมพัดฝนกระหน่ำเข้ามาด้านในทาร์ป จนถึงหัวนอนของผม ทำให้หมอนและถุงนอนผมเปียกไปหมด 

ผมรีบลุกจากเตียงสนาม ก็เห็นว่า น้ำฝนกำลังค้างอยู่บนทาร์ป เป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ หากผมไม่ทำอะไรสักอย่างคงจะพังเป็นแน่แท้ ผมจึงต้องหาร่มเพื่อจะกางออกไปปลดเชือกที่ขึงทาร์ปไว้ และลดตำแหน่งให้เอียงลาดลงมา ไม่ให้น้ำฝนค้างอยู่ได้ 

แต่ช่วงเวลาฉุกละหุกแบบนี้ ทำให้หาอะไรก็ไม่เจอ ผมได้แต่คว้าหมวก แล้วรีบออกไปปลดเชือก ลดความสูงของเสาทาร์ปให้ต่ำลง เพื่อให้เกิดความเอียงเป็นเหมือนจั่วบ้าน น้ำจะได้ไม่ขังด้านบน

และผมก็เข้ามาเก็บพับเก้าอี้ ทั้งหมดเพื่อไม่ให้เกะกะ แล้วก็ขยับเตียงหลบฝน แต่ทุกอย่างก็เปียกไปเสียหมดแล้ว

ผมพยายามนอนต่อด้านนอก แต่ทว่าช่วงเวลาฝนตกพร่ำๆ แบบนี้กลับมียุงมากกว่าตอนหัวค่ำ ยุงมันกัดขา กัดแขน ผมก็เอาสเปรย์กันยุงฉีดไปที่แขนขา แต่ยุงก็ยังบินอยู่ข้างหู จนผมไม่สามารถนอนหลับได้ จึงต้องมุดเข้าไปนอนในเต็นท์ กับลูกเมีย

ช่วงประมาณตีห้า ฝนเริ่มซาลง อากาศเริ่มเย็นสบายขึ้น จนต้องปิดพัดลม พอได้ยินเสียงไก่ขัน ผมก็รีบลุกออกจาเต็นท์เพื่อมาเสพบรรยากาศยามเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น หลังจากนั้นผมก็ไป ล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมเก็บเต็นท์กันต่อ

การไปกางเต็นท์ แบบพักแรม 1 คืน เป็นการที่สร้างความเหน็ดเหนื่อยอย่างมาก หากคุณคิดว่าจะไปกางเต็นท์เพียง 1 คืน ขอให้เอาไปเฉพาะสิ่งจำเป็นเท่านั้น อย่างพยายามขนสัมภาระที่ไม่จำเป็นจนมันเยอะเกินไป มันจะทำให้เหน็ดเหนื่อยทั้งเวลากางเต็นท์ และเวลาเก็บเต็นท์

เพราะคุณพึ่งจะกางเต็นท์และจัดของสัมภาระทั้งโต๊ะ ทั้งเก้าอี้ และอื่นๆ เสร็จไปเมื่อตอนเที่ยง พอนอนพักไปแค่คืนเดียว ตอนเช้าคุณก็ต้องเหนื่อยกับการเก็บของเหล่านั้นอีกแล้ว หากคุณเอามาน้อย คุณก็จะไม่เหนื่อยมาก

ช่วงเช้านี้ แม่บ้านของผมก็ทำอาหารเช้าให้ทาน เป็นไข่กระทะสำหรับลูกสาว และข้าวต้มทรงเครื่องร้อนๆ หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วก็รีบกันเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับบ้าน

การเก็บเต็นท์ช่วงเช้า ก็ขอให้เก็บของและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ไม่จำเป็น รวมกันไว้ก่อน แล้วค่อยเก็บเต็นท์ ต่อด้วยทาร์ป เป็นลำดับสุดท้าย ยิ่งเมื่อคืนฝนตก จำเป็นอย่างมากที่จะต้องให้ เต็นท์และทาร์ป ตากแดดให้แห้งเสียก่อน ไม่อย่างนั้นหากเราเก็บไป แล้วไม่ได้เอาไปตากแดดที่บ้าน เต็นท์อาจขึ้นรา 

การที่จะรอให้แห้งด้วยแสงแดด มันก็ช้า และทำให้ตัวเรารู้สึกร้อนไปด้วย ผมก็ใช้ผ้าผืนเล็กๆ ที่เตรียมมา เช็ดน้ำที่เกาะบริเวณเต็นท์ กับทาร์ป ก็ช่วยให้แห้งได้ไวขึ้น 

หลังจากเก็บทุกอย่างขึ้นไว้บนรถแล้ว ผมก็ไปหาน้ำเย็นๆ ดื่ม แล้วก็ถ่ายรูปกับครอบครัวเป็นที่ระลึก ว่าเราได้มายังอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น และคิดว่าในช่วงฤดูหนาวผมก็อยากจะมากางเต็นท์สระบุรี ณ ที่แห่งนี้อีกครั้ง