นางพญาวัดเวียง
พระนางพญากรุวัดเวียงอยุธยา เป็นพระพุทธรูปพิมพ์เนื้อดินเผาที่มีอายุราวปลายสมัยอยุธยาหรือต้นกรุงรัตนโกสินทร์ พบครั้งแรกที่วัดเวียง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2480 และพบอีกครั้งในปี พ.ศ. 2523 จากการขุดค้นทางโบราณคดี
วัดเวียง ตั้งอยู่ใน ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สัญนิษฐานว่าสร้างขึ้นในยุคปลายของกรุงศรีอยุธยา โดยเถระฝ่ายลาวจากเวียงจันทร์ เมื่อครั้งอพยบมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
เล่ากันว่ามีชาวลาวจำนวนไม่น้อย อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในไทยตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นต้นมา และลงหลักปักฐานทำมาหากินอยู่ตามที่ลุ่มของแม่น้ำป่าสักไล่มาจนถึงเพชรบูรณ์ สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา โดยส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาพุทธ ดังนั้น เมื่อสภาพความเป็นอยู่เริ่มลงตัว จึงคิดสร้างวัดวาอาราม เพื่อใช้เป็นที่ประกอบกิจทางศาสนา เยี่ยงพุทธศาสนิกชนที่ดีพึงกระทำ อาทิ วัดสะตือ วัดเวียง วัดดาวเสด็จ เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าแต่ละวัดที่กล่าวมานี้ก็เป็นที่คุ้นหูทั้งสิ้น โดยเฉพาะนักนิยมสะสมพระเครื่อง เช่น วัดสะตือก็จะเกี่ยวข้องกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) หรือ วัดดาวเสด็จก็มีพระเครื่องที่มีชื่อเสียงคือ "พระนางพญาวัดดาวเสด็จ"
สำหรับวัดเวียง ก็เช่นกัน เมื่อครั้งสร้างวัดขึ้นในสมัยอยุธยานั้น ก็มีการจัดสร้างพระพิมพ์ด้วย คือ "พระนางพญา วัดเวียง" เป็น พระเนื้อดินเผา ที่เนื้อดินหยาบพอประมาณ มีทรายและแก้วแกลบเป็นเสี้ยนสีขาวผสมอยู่มาก คล้ายเนื้อดินของพระตระกูลสุโขทัย หรือพระของหลวงพ่อโหน่ง แห่งวัดคลองมะดัน จ.สุพรรณบุรี ซึ่งผิวพรรณจะนวลสะอาดแบบหม้อใหม่ปัจจุบัน และเมื่อใช้หรือผ่านการสัมผัสจะมีความแกร่งและมันวาว หลังจากผ่านกรรมวิธีการเผาเป็นที่เรียบร้อย ก็จะนำมาใส่โอ่งดินวางไว้ 4 มุมในพระอุโบสถ ดังนั้น นอกจากจะได้รับการปลุกเสกจากพระเถระผู้สร้างเป็นอย่างดีแล้ว จะได้รับการปลุกเสกในพระอุโบสถตลอดเวลาอีกด้วย ทั้งสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น สวดปาฏิโมกข์ สวดยัด ฯลฯ
นางพญาวัดเวียงอยุธยา พิมพ์อาสนะยาว พิมพ์อาสนะสั้น
นางพญาวัดเวียง มีลักษณะเป็นองค์พระพิมพ์แบบครึ่งซีก มีพุทธศิลปะคล้ายศิลปะอู่ทอง รูปทรงสามเหลี่ยม พระประธานประทับนั่ง แสดงปางสมาธิ บนอาสนะ การหักของพระกรหักเป็นมุม ช่วงต่ำกว่าข้อศอกแลดูผิดส่วน พระเกศเป็นแบบเกศปลี พระกรรณยาวและอ่อนสลวย พระสังฆาฏิยาวจดพระหัตถ์ ลำพระองค์ สูงชะลูดและดูผึ่งผาย แบ่งได้เป็น 2 พิมพ์ คือ
1.พิมพ์เส้นอาสนะยาวตลอดพระเพลา
2.พิมพ์อาสนะยาวไม่ตลอดพระเพลา
"พระนางพญา" เรียกชื่อกันตามพุทธลักษณะพิมพ์ทรงที่เหมือน "พระนางพญา วัดนางพญา จ.พิษณุโลก" หนึ่งในพระชุดเบญจภาคี สุดยอดพระเครื่องของเมืองไทย
พระนางพญา วัดเวียงนั้นไม่ใช่พระกรุที่จะเรียกว่า พระนางพญา กรุวัดเวียงได้ เนื่องจากมิได้นำลงบรรจุกรุ แต่เป็นการนำพระใส่โอ่งทิ้งไว้ในโบสถ์ ใครอยากหยิบก็หยิบไปได้ จึงไม่ได้นับเป็นพระกรุ สำหรับพระนางพญาวัดเวียง เป็นพระพิมพ์เก่าแก่อีกพิมพ์หนึ่งของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเรียกได้ว่ามีมาคู่กับวัดเลยทีเดียว
พระนางพญาวัดเวียง จ.พระนครศรีอยุธยา นับเป็นพระเก่าที่มีพุทธคุณเป็นเลิศ โดยเฉพาะที่เป็นที่กล่าวขวัญเลื่องลือกันมาก คือ เรื่องอยู่ยงคงกระพัน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารหาญจากเมืองลพบุรีและสระบุรี ได้มาเอาพระนางวัดเวียงนี้เพื่อบูชาติดตัวไปทำศึกสงคราม ปรากฏประสบการณ์ในด้านแคล้วคลาดคงกระพันชาตรีอย่างน่าอัศจรรย์
พระนางพญากรุวัดเวียง มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งปางสมาธิ บนฐานเขียง องค์พระประทับนั่งขัดสมาธิราบ พระอุระกว้าง พระเพลาอวบอิ่ม พระพักตร์รูปไข่ มีพระเนตรเหลือบขึ้น พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์แย้ม พระเกตุมาลาเป็นเปลวเพลิง พระรัศมีเป็นเปลวเพลิงเช่นกัน
พระนางพญากรุวัดเวียง มีเนื้อดินค่อนข้างหยาบ มีทรายและแก้วแกลบเป็นเสี้ยนสีขาวปนอยู่มาก สันนิษฐานว่าน่าจะใช้ดินเหนียวผสมกับทรายและแก้วแกลบเผาไฟที่อุณหภูมิต่ำ
พระนางพญากรุวัดเวียง แบ่งออกเป็น 2 พิมพ์หลัก คือ พิมพ์ฐานยาว และพิมพ์ฐานสั้น พิมพ์ฐานยาวได้รับความนิยมมากกว่าพิมพ์ฐานสั้น
พุทธคุณ
พระนางพญากรุวัดเวียง เชื่อกันว่ามีพุทธคุณเด่นทางด้านคงกระพันชาตรีและแคล้วคลาด ผู้ที่บูชาพระนางพญากรุวัดเวียง มักจะประสบกับโชคลาภและความสำเร็จในหน้าที่การงาน
ราคา
ปัจจุบัน พระนางพญากรุวัดเวียง มีราคาเช่าบูชาอยู่ที่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท ขึ้นอยู่กับความสวยสมบูรณ์ขององค์พระ
ข้อแนะนำในการเช่าบูชา
ก่อนที่จะเช่าบูชาพระนางพญากรุวัดเวียง ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน เพื่อจะได้เช่าบูชาพระแท้ที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสม
สรุป
พระนางพญากรุวัดเวียง เป็นพระพุทธรูปพิมพ์เนื้อดินเผาที่มีพุทธคุณโดดเด่น เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบพระเครื่องเก่าแก่และทรงคุณค่า