ชิมช้อปใช้ จ่ายเงินไปเที่ยว
จากนโยบาย “ชิมช้อปใช้” ที่สร้างกระแสในเรื่องของการผลักดันเศรษฐกิจแห่งชาติ ผมก็ไม่พลาดต้องขอตอบสนองนโยบายรัฐบาลด้วยการนำเงิน 1,000 บาท ตามสิทธิที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย ในช่วงปลายปี 2562 นี้
จากนโยบายรัฐบาลกับโปรเจค “ชิมช้อปใช้” ที่ใช้เม็ดเงินในคลังจำนวน “หมื่นล้านบาท” โดยแบ่งให้ประชาชนที่มีรายได้ประมาณ 10 ล้านคน จำนวนคนละ 1,000 บาท ช่วยกันใช้ โดยเงื่อนไขต้องนำเงินจำนวนนี้ไปใช้ในต่างจังหวัดที่ไม่ได้เป็นจังหวัดที่อยู่ในทะเบียนบ้านภูมิลำเนา ก็จะทำให้เศษฐกิจทั่วประเทศมีเงินสะพัดแน่นอนแล้ว หมื่นล้านบาท จากรัฐบาล แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะในระหว่างการเดินทางของแต่ละคนย่อมเกิดการใช้จ่ายไปตลอดทาง ทั้งไปและกลับ ทำให้มีเงินมากกว่า หมื่นล้านบาท สะพัดไปทั่วประเทศ มันคือการ “ขุดบ่อล่อปลา” ชัดๆ รัฐบาลลงทุน หมื่นล้านบาท แต่เงินอาจมีการจับจ่ายใช้สอยอีกมากมายหลายหมื่นล้านบาทเลยทีเดียว แถมต่อด้วยเงื่อนไขการคืนเงิน 15% หากเติมเงินเข้าแอพ “เป๋าตังค์” ไปใช้เพิ่ม ก็จะได้เงินคือ 15% โดยจำกัดในวงเงิน 30,000 บาท จะได้เงินคืน 4,500 บาท ซึ่งจะทำให้มีเงินสะพัดเพิ่มขึ้นไปอีกหลายพันล้านบาท จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นแน่นอนแล้วจากเงินส่วนนี้
ที่สำคัญเงินเหล่านี้ไม่ได้ไปเข้ากระเป๋าเฉพาะมหาเศรษฐีที่ผูกขาดเพียงอย่างเดียว แต่เงินเหล่านั้นจะไปยัง ร้านอาหาร ร้านค้า ร้านของฝาก โรงแรมที่พักต่าง ๆ ทั่วประเทศ ที่เป็นธรุกิจขนาดกลางและขนาดย่อมด้วยเช่นกัน ในช่วง 26 กันยายน - 30 พฤศจิกายน โดยผ่านแอพพลิเคชั่น “เป๋าตังค์” ของธนาคารกรุงไทย ที่ออกมารองรับโลกอนาคตที่เป็น “สังคมไร้เงินสด” อย่างแน่นอน
พอนโยบายประกาศใช้ ผมก็คิดก่อนเลยครับว่าเราจะเอาสิทธินี้ไปใช้ที่จังหวัดใด ช่วงเวลาไหน ก็เอาปฏิทินมากางดู วันที่ 12-13-14 ตุลาคม 62 เป็นวันหยุดทำงานยาวติดต่อกัน น่าจะใช้ช่วงเวลานี้แหละครับที่จะพาภรรยาและลูกสาววัย 6 ขวบไปเที่ยว โดยลูกสาวผมอยาก "ไปเที่ยวทะเล" ช่วงปิดเทอม ผมกับภรรยาตกลงกันเรียบร้อยก็รีบเปิดแอพ Agoda หาโรงแรมที่พักทันทีเดียวจะไม่ทันการณ์ เพราะช่วงหยุดยาวๆ แบบนี้ โรงแรมมักจะเต็มไว โรงแรมที่ผมต้องการคือ “โรงแรมยูเรเซียลากูล ชะอำ” ซึ่งเคยไปมาครั้งหนึ่งแล้ว ประทับใจ คือ เป็นโรงแรมราคาประหยัด แถมมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ถึง 2 สระด้วยกันอยู่ติดกับชายทะเล มีสระน้ำสำหรับเด็กเล็กอยู่ด้วย และที่สำคัญกว่านั้นด้านหน้าของสระว่ายน้ำติดกับหาดทรายส่วนตัวของโรงแรม ที่สามารถเดินลงไปเล่นน้ำทะเลได้อย่างสบายๆ ผมรีบจองก่อนเลยเพราะเหลือไม่กี่ห้อง ปรากฏว่าได้ห้องที่อยู่ชั้นสอง จริง ๆ ผมต้องการที่พักแบบบ้านเป็นหลังแยกส่วนตัว ติดกับริมสระว่ายน้ำเหมือนครั้งก่อนที่เคยมา แต่ว่าเต็มหมดแล้ว ก็ไม่เป็นไรครับเปลี่ยนบรรยกาศห้องบ้างก็ดี เดี๋ยวบรรยากาศห้องชั้น2 ผมจะนำมารีวิวให้ดูภายหลังนะครับ
หลังจากจองที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องรีบลงทะเบียน “ชิมช้อปใช้” ให้ทันสิครับ เพราะว่าเปิดให้ลงทะเบียนวันละ 1ล้านคน หากครบ 1ล้านคนก็ต้องเริ่มใหม่กันตอนหลังเที่ยงคืน ผมก็ตื่นมาตีสี่กว่าๆ เข้าไปลงทะเบียน กรอกแบบฟอร์มตามที่เขาระบุมา ที่สำคัญคือ ต้องระบุจังหวัดที่จะไปใช้เงินตามสิทธิ โดยไม่ใช่จังหวัดที่อยู่ในทะเบียนบ้าน ซึ่งตรงนี้มีเพื่อนผมหลายคนระบุเป็นจังหวัดในทะเบียนบ้านตัวเอง (อาจต้องสมัครใหม่) หรือบางคนก็กรอกมั่วจังหวัดไป พอได้รับอนุมัติก็ไม่สามารถเดินทางไปยังจังหวัดที่ระบุไว้ได้ในเวลาที่กำหนด คือ 14 วันหลังอนุมัติ ก็อาจจะเสียสิทธิไปได้ง่ายๆ ที่สำคัญอีกประการต้องกรอกหมายเลขบัตรประชาชน และหมายเลขหลังบัตรประชาชนด้วย หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วก็จะเข้าหน้าแจ้งว่า “ระบบได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านเรียบร้อยแล้ว” ตรงนี้ผมกับภรรยาลงทะเบียนวันพุธที่ 25 กันยายน ผ่านไปได้สบายๆ ที่เหลือคือต้องรอ Massage แจ้งอนุมัติตามขั้นตอนภายใน 3 วันทำการ
ผมมาได้รับ Massage แจ้งอนุมัติใน วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พอดี (ใหนบอกว่า 3 วันทำการ) ผมก็คิดว่าจะได้อนุมัติประมาณ วันจันทร์ที่ 30 กันยายน 62 ปรากฏว่าอนุมัติวันเสาร์ ซึ่งสิทธิตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือผมจะต้องใช้เงินภายใน 14 วันหลังจากอนุมัติ นั่นคือวันที่ 29 กันยายน - 12 ตุลาคม 62
ซึ่งวันที่ 12 ตุลาคม 62 เป็นวันที่ผมเดินทางไปเพชรบุรีพอดี และผมกับภรรยาต้องใช้เงินคนละ 1,000 บาทในวันนั้นให้หมดเลย หากไม่หมดเงินจะโอนไปยังกระเป๋าที่2 คือต้องใช้กับร้านธงฟ้า ในจังหวัดนั้น ๆ
ตอนนี้ผมก็ดำเนินการเปิดแอพ “เป๋าตัง” เรียบร้อย ซึ่งต้องยืนยันโดยการถ่ายบัตรประชาชน และยืนยันกับหน้าของเรา โดยใช้กล้องมือถือ ตรงนี้ผมยังกังวลว่าจะผ่านหรือไม่เพราะบัตรประชาชนผม รูปมันลอกเลอะเลือนจนไม่เหมือนกับหน้าปกติ แต่ปรากฏว่าพอเอากล้องโทรศัพท์ส่องใบหน้าก็ได้รับการอนุมัติทันที โล่งอกไป ส่วนภรรยาผมนั้นครั้งแรกไม่ผ่าน แอพแจ้งว่าช่วงนั้นมีคนใช้บริการเยอะ ก็รอดึกๆ หน่อยแล้วก็ลองถ่ายบัตรประชาชนและหน้าเพื่อยืนยันก็ได้รับการอนุมัติเช่นกัน
หลังจากนี้ก็เตรียมตัว ไปเที่ยว ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งค่าโรงแรมนั้น ผมก็ใช้บัตรเครดิตจ่ายในแอพ Agoda ไปเรียบร้อยแล้ว 2 คืน โดยไม่ได้ใช้เงินจากกระเป๋า “ชิมช้อปใช้” แต่ผมก็มีแผนที่จะไปกินอาหารร้านอาหาร และก็ซื้อพวกของฝากมาฝากญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน เดี๋ยวจะมารีวิวการท่องเที่ยวตามนโยบาย “ชิมช้อปใช้” ที่จังหวัดเพชรบุรี ชะอำ ทะเลสวยๆ ให้ชมในครั้งหน้านะครับ