Swiss Sheep Farm ชะอำ
บ่ายวันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2562 หลังจากที่ผมและครอบครัวเช็คอินที่ โรงแรมยูเรเซียชะอำลากูล เรียบร้อยแล้ว ก็พากันออกมาเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยว ที่ชะอำ จังหวัดเพชรบุรีก็มี Swiss Sheep Farm เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีอีกสถานที่หนึ่ง
ผมเคยมาแล้ว 2 ครั้ง ผ่านมาครั้งนี้ก็ยังคงแวะเข้ามาอีก สถานที่แห่งนี้ก็เหมาะมากกับคนที่ชอบถ่ายภาพด้วยกล้อง DSLR สามารถมาฝึกถ่ายภาพสวยๆ งามๆ ได้เลยมีมุมถ่ายภาพเยอะแยะไปหมด รวมถึงสาวๆ ที่ชอบเซลฟี่ฟุ้งฟิ้ง ก็ไม่ควรพลาดที่จะเข้ามาถ่ายเซลฟี้ลงโซเซียลเพื่อโชว์เพื่อนๆ
ช่วงวันหยุดต่อเนื่องแบบนี้ บนถนนเส้นนี้รถเยอะมากๆ หากเรามาจาก หาดชะอำ ก็ต้องกลับรถยนต์ ผมแนะนำให้ไปกลับใต้สะพานจะปลอดภัยที่สุด เพราะช่องกลับรถยนต์เกาะกลางถนนกลับรถยากมากเพราะจำนวนรถที่วิ่งด้วยความเร็วสูงและมีจำนวนมาก ต้องกะช่วงระยะดีๆ ในการกลับรถไม่งั้นอาจเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ถ้าไปกลับใต้สะพานกลับรถจะปลอดภัยที่สุดครับ
เมื่อเข้ามายังลานจอดรถก็สามารถมองทัศนียภาพในฟาร์มได้ชัดเจนด้านหลังเป็นภูเขาสูงเด่นเป็นสง่าทำให้ฟาร์มดูโดดเด่นน่าสนใจ
ก่อนเข้าก็ต้องไปซื้อตั๋วเข้าภายในฟาร์มกันก่อนครับ สำหรับผู้ใหญ่ใบละ 50 บาท เด็ก 30 บาท เท่านั้น และหางบัตรสามารถไปแลกหญ้าสำหรับนำไปให้แกะกินเป็นอาหารได้ทุกใบ เส้นทางเดินเข้าก็ทำเป็นซุ้มทางเดินไว้สวยงาม
ด้านในมีรถพ่วงเป็นขบวนรถไฟ ส่วนหัวเป็นรถไถ ส่วนรถพ่วงทำจากถังน้ำมัน 200 ลิตร ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม บริการให้นักท่องเที่ยวนั่งชมฟาร์ม รถนี้จะวิ่งไปรอบๆ ฟาร์มเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบเดินตากแดด สำหรับผมก็เลือกที่จะเดินไปถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ดีกว่าครับ
บรรยากาศภายในฟาร์มก็ตกแต่งไว้สำหรับถ่ายภาพจริงๆ เพราะสีสันสดใสสวยงามมาก สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
มีรถโฟร์คสีขาวเก่าๆ แต่มันสุดจะคลาสิคเลย จอดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปตามอัธยาศัย
เมื่อนำหางบัตรไปแลกหญ้าแล้ว ก็ต่างนำไปให้กับแกะที่ต่างรอหญ้าจากนักท่องเที่ยว รูสึกว่ามันจะหิวกันมากเลยทีเดียว
มีลูกแกะตัวเล็กๆ ที่แยกไว้กับในคอกอยู่รวมกับแม่แกะ มีน่ารักๆ หลายตัว
มุมถ่ายภาพอีกมุมหนึ่งที่เด่นมากคือ ตรงบริเวณกังหันลม และมีป้าย Swiss Sheep Farm สีแดงสดใส เหมาะกับการถ่ายภาพ
มุมถ่ายภาพอีกมุมคือ รูปปั้นแครอทสีส้มสดใส
เส้นทางไปยังอาคารสำหรับไปชมภาพวาด 3D และ มีตัว อัลปาก้า ให้ชมด้วยซึ่งจะอยู่ภายในอาคารติดแอร์ต้องเสียเงินเข้าชม ตามเส้นทางเดินก็จะมีคอกม้าแคระไว้ให้นักท่องเทียวได้ชมและถ่ายภาพ
มีอาคารสวยๆ ไว้ให้นักท่องเทียวชมเช่นเคย และมีรถไถจอดอยู่ด้านหน้า ตกแต่งให้เมือนกับฟาร์มในต่างประเทศ
อีกมุมหนึ่งคือ บ้านกระต่าย ภายในมีกระต่ายป่ามากมาย ซึ่งเราก็ต้องจ่ายเงินค่า แครอท 1 ถุง เพื่อนำไปให้กับกระต่ายได้กิน ลูกสาวผมชอบมาก ก็นำไปให้กระต่ายได้กิน ผมดูแล้ววันนี้กระต่ายน่าจะได้กินกันเยอะแล้วเพราะบางตัวนอนพักผ่อนกันสบายไม่สนใจอาหารในมือนักท่องเที่ยวเลย กระต่ายก็เป็นสัตว์น่ารักสำหรับเด็กๆ เสมอ
จุดเด่นของฟาร์มก็คือ ตุ๊กตายักษ์ตัวใหญ่มาก ผมไม่แน่ใจว่าเป็นหุ่นไล่กา หรืออะไร สีสันสดใส ด้านหน้ามีป้ายเขียนว่า เด็กเลี้ยงแกะ เป็นจุดที่ทุกคนต้องเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก
สถานที่ในฟาร์มสวยงานถ่ายรูปมาก็จะได้ภาพสวยงามอย่างที่เห็น เพราะสถานที่สวยงามไปแล้ว 95% ฝีมือถ่ายภาพผมมีแค่ 5% ก็ได้ภาพสวยๆ แล้วครับ
มีจุดถ่ายภาพเยอะแยะมากมาย ลูกสาวผมไม่ค่อยชอบตากแดดกลางแจ้ง ก็จะเลือกมุมในร่มถ่ายรูป
ภรรยาผมกับลูกสาวถ่ายภาพกับชิงช้าที่มีให้ใต้ต้นไม้ ก็เป็นจุดที่ร่มรื่นเย็นสบายดี
บางครั้งลูกสาวก็ยากจะขี่หลังพ่อเดินเที่ยว คงจะเมื่อย เมื่อก่อนตอนเล็กๆ ก็ขี่หลังพ่อประจำแต่เธอก็เติบโตขึ้นทุกวัน ต้องช่วยเหลือตัวเองบ้าง
ก่อนออกจากฟาร์มก็มีซุ้มเป็นช่องทางผ่านไปยังร้านค้าขายของที่ระลึก ภายในมีสินค้าที่ระลึกมากมาย และมีตุ๊กตาหมีตัวใหญ่รอต้อนรับหน้าประตูทางเข้าร้าน ใครอย่างไปนั่งถ่ายภาพก็ตามสบาย
วันนี้ก็ได้พาครอบครัวเที่ยวไปพอสมควรแล้ว ถึงเวลาที่จะไปหาร้านอาหารทานมื้อเย็นกันแล้วครับ ร้านที่จะต้องไปก็ต้องเป็นร้านที่เปิดรับ “กระเป๋าตัง ชิมช้อปใช้” เพราะวันนี้เป็นสิทธิ วันสุดท้ายไม่ใช้ไม่ได้เสียดาย ตั้งหนึ่งพันบาท ร้านเป้าหมายที่จะไปทานก็คือ “ร้านครัวป้ายืน” เมื่อเช้าพลาดไปก่อนร้านเปิด ตอนนี้บ่ายสี่โมงแล้วจะไปกินให้เต็มที่เลย เดี๋ยวเราตามผมไปทานอาหารมื้อเย็นที่ ร้านอาหารในชะอำ กันดีกว่าครับ
วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2562