เพื่อนทหารพาเที่ยวฐานทัพเรือ
วันหยุดครั้งนี้ครอบครัวเราจะพาไปเที่ยวแบบครอบครัว ใกล้กรุงเทพ เรามีนัดกับเพื่อนที่เป็นทหารเรือ ประจำอยู่ฐานทัพเรือสัตหีบ ปกติก็ไม่ค่อยได้อยู่ประจำเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่จะออกประจำการไปทางภาคใต้ มาครั้งนี้กลับมาอยู่ที่สัตหีบผมก็เลยชวนครอบครัวไปเที่ยว ซึ่งเพื่อนผมคนนี้ก็จะพาเข้าชมฐานทัพเรือสัตหีบและเรือหลวงอ่างทอง ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่มากของไทย
เมื่อเราเดินทางมาถึงจังหวัดชลบุรี เพื่อนที่เป็นทหารและภรรยาก็ขับรถมารับไปทานอาหารที่ร้านอาหารกันก่อน แล้วเดินทางเข้าสู่ฐานทัพเรือ ก็มีการตรวจบัตรผ่านเข้าฐานทัพ โดยเพื่อนผมที่เป็นทหารก็ยื่นบัตรทหารและขับรถนำพาเข้าไปภายในฐานทัพเรือสัตหีบแห่งนี้
ผมตื่นตาตื่นใจมากเพราะไม่เคยเข้ามายังฐานทัพเรือแห่งนี้เลย เมื่อตอนเรียนปริญาตรี อาจารย์เคยพามาเที่ยวชม เรือหลวงจักรีนฤเบศ ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน และเข้าไปซ่อมบำรุงที่ท่าเรือแหลมฉบังไม่ได้อยู่ในฐานทัพเรืออย่างวันนี้ ครั้งนี้เพื่อนที่เป็นทหารพามาชมเรือหลวงอ่างทอง ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบก จากที่มองเห็นนั้นเรือมีขนาดใหญ่โตมโหฬารมาก น่าเกรงขามยิ่งนัก ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในช่วงศึกสงคราม แต่การมีเรือรบที่ทันสมัยก็เสริมสร้างความสามารถให้กองทหารได้อย่างดี และหากเกิดภัยพิบัติต่างๆ เรือรบขนาดใหญ่แบบนี้เท่านั้นที่จะสามารถฝ่ามรสุมพร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็นไปช่วยเหลือประชาชนได้ เสียดายผมไม่ค่อยได้ถ่ายภาพไว้ชมมากนัก เนื่องจากขณะนั้นยังถ่ายภาพไม่ค่อยจะเป็น
ช่วงที่มาถึงฐานทัพเรือ เป็นช่วงบ่ายแก่ๆ เลยเชียวหล่ะ อากาศร้อนมาก แดดก็แรงจ้าตลอดทุกทิศทางเลยทีเดียว กล้องที่ผมนำไปด้วยก็เป็นเลนส์คิทธรรมดา ไม่ใช่เลนส์มุมกว้าง ผมต้องถอยหลังไปจนสุดฝั่งถนนก็ยังไม่สามารถถ่ายภาพเรือได้เต็มลำ หากจะต้องถ่ายภาพให้เต็มลำเรือ ก็ต้องวิ่งออกไปอีกไกลมาก ซึ่งแดดก็ร้อนแรงจนผมยอมแพ้ เพราะทุกคนก็กำลังจะขึ้นไปบนเรือเพื่อหลบแดดกัน
ผมพยายามจะหามุมถ่ายภาพแต่ก็สู้แสงแดดร้อนๆ ไม่ไหวจริงๆ จึงขอถ่ายรูปภรรยากับน้องเค้ก ลูกสาววัยสามขวบของผมก่อนขึ้นเรือรบ แต่เธอก็หลับตาไม่กล้าสู้กับแสงแดดอันแรงกล้า ก็เลยรีบขึ้นไปบนเรือหลวงอ่างทองเพื่อหลบความร้อนจากแสงแดดดีกว่าครับ
ภายในเรือมีพื้นที่กว้างขวางมาก มีลานกว้างที่สามารถจอดเฮลิปคอปเตอร์ได้ด้วย ใหญ่มากจริงๆ ไม่ใช่แค่จอดเฮลิปคอปเตอร์ แต่ภายในสามารถนำรถบรรทุกและรถถังขึ้นมาบนเรือได้อย่างสบายๆ
ด้านข้างเรือจะมีป้อมปืนกล ซึ่งมีประจำไว้ตามจุดต่างๆ บนเรือ เป็นเขี้ยวเล็บสำหรับป้องกันตนเอง หากมีข้าศึกเข้ามาประชิด แต่ยามสงครามเรือใหญ่แบบนี้น่าจะมีเรือพิฆาตคุ้มกันอย่างแน่นอนครับ
เพื่อนผมที่เป็นทหารเรือขออุ้มหลานสาวถ่ายภาพหน่อย เนื่องจากยังไม่มีลูก และเขาก็อยากมีลูกสาวมากๆ เมื่อน้องเค้กไปทางไหนก็จะคอยบริการตลอดทริปเลย
น้องเค้กเธอก็เล่นไปตามประสาเด็ก ปีนขึ้นไปนั่งที่บังคับการเดินเรือเลยทีเดียว โดยมีเพื่อนทหารของผมดูแลอย่างใกล้ชิด เดี๋ยวเกิดเล่นซนไปกดปุ่มยิงจรวด จะทำให้เดือดร้อนกันไปทั่ว ฮ่าๆ ล้อเล่นนะครับ
เพื่อนผมยังพามาเที่ยวกองเรือยุทธนาวี มีเรือรบตรวจการณ์ เรือรบลาดตะเวนหลายลำ ขึ้นลำโน้นออกลำนี้ไปทั่ว เข้าไปถึงห้องครัว ภายในเรือเพื่อนผมพาไปดูเครื่องผลิตน้ำแข็งในเรือรบด้วย แต่ว่าแดดร้อนมากจริงๆ เวลานี้
หลังจากเที่ยวชมฐานทัพเรือเรียบร้อยแล้ว ก็พากันมานั่งเล่นที่ หาดทรายแก้ว สัตหีบซึ่งอยู่ในอณาบริเวณเขตทหาร ในส่วนนี้ต้องเสียค่าบริการเข้าไปเที่ยว
หาดทรายมีความสะอาดและสวยงาม สมกับเป็นเขตทหารจริงๆ ครับ อยากให้ทุกหาดในประเทศไทยสะอาดแบบนี้จริงๆ มีนักท่องเที่ยวออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งกันพอสมควร
นักท่องเที่ยวมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีกิจกรรมพายเรือคายัค และเล่นน้ำ บางคนก็เดินเล่นบนหาดทรายที่สวยงามสะอาดตา
สำหรับน้องเค้กกับคุณแม่ ไหนๆ ก็มาเที่ยวทะเลแล้วก็เปลี่ยนชุดไปเล่นน้ำทะเลให้คุ้มค่ากับการเดินทางมาเที่ยวทะเลครั้งนี้
ทั้งคู่เล่นกันจนเย็น แล้วจึงขึ้นจากทะเล เราค้างคืนที่นี่ 1 คืน แล้วพรุ่งนี้จึงจะเดินทางกลับบ้าน
ตื่นเช้ามา เราขับรถไปยังตลาดสดเพื่อหาซื้ออาหารทะเลกลับบ้าน มีทุกอย่างราคาก็ไม่แพงมาก
ก่อนกลับเราไปเที่ยว ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ใกล้กับเขาชีจรรย์ บรรยากาศสวยงามน่าถ่ายรูปมาก แต่ว่านักท่องเที่ยวก็เยอะมากๆ ด้วยเช่นกัน ด้วยฝีมือการถ่ายภาพผมที่ไม่เอาไหน จึงทำให้ได้ภาพไม่ค่อยสวยถูกใจ เดี๋ยวภาพก็มืดไปบ้าง บางภาพก็สว่างจ้าเกินไปบ้าง
ผมก็ของจบทริปเที่ยวฐานทัพเรือสัตหีบ ด้วยภาพน่ารักของน้องเค้กลูกสาวผมในวัย 3 ขวบนี้นะครับ หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สรุปทริปนี้ ก็ได้ไปเที่ยวชมฐานทัพเรือสัตหีบและได้ชมเรือหลวงอ่างทอง ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ยังได้เข้าไปสัมผัสในเรือรบลำอื่นๆ อีกหลายลำ ถือว่าคุ้มค่ามากที่สุด สำหรับการไปพักผ่อนยังหาดทรายแก้ว ก็พบว่าเป็นหาดทรายที่สวยงามและสะอาดเป็นอย่างมาก และยังมีโอกาสได้ขึ้นไปยังจุดชมวิว ณ ศาลท่านกรมหลวงชุมพรบนภูเขาอีกด้วย จบด้วยไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ใกล้เขาชีจรรย์
วันที่ 20-21 พฤษภาคม 2559