รีวิวท่องเที่ยว เดินทาง กางเต็นท์

กางเต็นท์ครั้งแรกภูสระดอกบัว

วันที่ 29 ธันวาคม 2565

ช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ ผมมีหน้าที่ขับรถพาครอบครัวไปเยี่ยมบ้านภรรยาที่ต่างจังหวัด เป็นเรื่องที่ดีสำหรับลูกสาวของผมที่จะได้พบหน้าญาติมิตร คุณยาย คุณตา และน้าสาวกับลูกพี่ลูกน้อง หลานชายวัยใกล้เคียงกันอีก 1 คน ที่จังหวัดอำนาจเจริญ ภาคอีสานของไทย

ผมออกเดินทางตั้งแต่ 4:00 น.ของวันที่ 28 ธันวาคม 2564 ไปถึง ณ บ้านนาหมอม้า อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ ในช่วงใกล้ๆ เที่ยง เมื่อนำสัมภาระลงจากรถแล้วก็รีบเดินทางไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกัน โดยผมตั้งใจจะไปทานก๋วยเตี๋ยวเป็ดซิตี้ แต่ภรรยาผมอยากไปทานอาหารเวียดนาม แต่ร้านปิด ก็เลยต้องไปทานก๋วยเตี๋ยวเป็ดดังที่ผมตั้งใจไว้

หลังจากนั้นผมก็กลับมานอนพักผ่อน ให้ญาติพี่น้องเขาได้พบเจอพูดคุยกัน เพราะพรุ่งนี้เช้าวันที่ 29 ธันวาคม 2564 ผมได้จองบ้านพักที่อุทยานแห่งชาติ ภูสระดอกบัว เอาไว้แล้ว 1 หลัง ซึ่งบรรดาญาติๆ ของภรรยาผมก็จะเข้าไปพักผ่อนด้วย มีคุณตา คุณยาย หลาน และคุณยายทวดอีก 2 คน 

สำหรับผมตั้งใจว่าจะไปทดลองกางเต็นท์นอนเป็นครั้งแรกตัวคนเดียว ว่าจะสามารถกางเองในสถานที่อุทยานภูสระดอกบัวนี้ได้หรือไม่ 

พอตื่นเช้ามาผมก็จัดเตรียมสัมภาระและขับรถไปยัง อุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัว ระยะทางกว่าร้อยกิโลเมตร ส่วนคุณตา คุณยาย คุณทวดอีกสองท่าน จะไปเดินซื้อของที่ตลาดริมฝั่งโขงที่มุกดาหารก่อนค่อยตามไปสมทบตอนค่ำๆ

เมื่อผมถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัวแล้ว ที่นี่ก็มีการตรวจตามมาตรการโควิด ดูหลักฐานการฉีดวัคซีน และชำระค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัว

ผู้ใหญ่คนละ 20 บาท เด็กคนละ 10 บาท ค่ารถยนต์คันละ 30 บาท

ส่วนค่าบ้านพักผมได้โอนเงินจองล่วงหน้าไปเรียบร้อยแล้ว และผมต้องเข้าไปจ่ายเพิ่มอีก 30 บาทเป็นค่ากางเต็นท์นอน

หลังจากชำระค่าบริการแล้วผมก็นำสมุดบันทึกการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติออกมาให้เจ้าหน้าที่ประทับตราอุทยาน ถือเป็นตราอุทยานตราแรกในสมุดเล่มนี้เลยก็ว่าได้ครับ

เมื่อเข้าไปในบ้านพักซึ่งหลังใหญ่มาก ราคา 840 บาท ในช่วงวันปกติ หากเป็นวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ นักขัตฤกษ์ ราคาจะ 1,200 บาท ในอุทยานนี้จะมีบ้านให้พักเพียง 2 หลังเท่านั้น

บ้านพักมีห้องนอน 3 ห้องนอน ห้องน้ำ 2 ห้องน้ำ สำหรับเตียงในห้องนอน 2 ห้องแรกจะนอนเตียงละ 1 คนเป็นห้องพัดลม ส่วนอีกห้องจะเป็นเตียงเดี่ยวนอน 2 คน และเป็นห้องแอร์ 

ด้านนอกจะมีระเบียงและโต๊ะอาหารสามารถประกอบอาหารปิ้งย่างได้ ตรงจุดนี้จะอยู่ติดกับ "อ่างเก็บน้ำหัวยหินข้อ" 

หลังจากเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว เด็กก็พากันไปลงเล่นน้ำในอ่างเก็บน้ำ พร้อมที่จะชวนผมให้ลงไปเล่นเป็นเพื่อน แต่น้ำเย็นมากๆ ผมจึงขออาสาพายเรือแคนนูให้เด็กๆ นั่งเล่นจะดีกว่า

ตกตอนเย็นผมนำเต็นท์ออกมาและหาพื้นที่กางเต็นท์นอน สภาพพื้นที่ค่อนข้างแย่ ขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อไม่เรียบเอาเสียเลย ทำให้แผ่นรองนอนที่ผมเตรียมมาไม่สามารถช่วยให้การนอนสบายได้เลย ผมต้องจัดหาตำแหน่งที่ตัวเราสามารถนอนได้โดยไม่รู้สึกว่าแย่มากนัก แต่ก็ยังรู้สึกแย่อยู่ดี

เมื่อกางเต็นท์เตรียมที่นอนเรียบร้อยแล้ว ก็กลับเข้าไปทานอาหารยังบ้านพัก ที่ภรรยาของผมได้จัดเตรียมไว้ให้ ทุกคนได้ทานกันจนอิ่มและก็ต่างคนต่างเข้านอน

ผมเดินกลับมานอนเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำห้วยหินข้อ โดยมีเพื่อนร่วมกางเต็นท์ที่กางไว้ก่อนแล้ว 3 หลัง และมีใต้ต้นไม้เป็นเต็นท์ที่เช่าของอุทยานอีก 1 หลัง รวมเป็น 5 หลังเท่านั้นเอง

ทุกเต็นท์ต่างคนต่างพักผ่อน ช่วงดึกจะได้ยินเสียงลมพัดแรงมาก เสียงกิ่งไม้ใบไม้กระทบกันตลอดทั้งคืน ยิ่งดึกมากก็จะได้ยินเสียงแปลกๆ ออกมาจากแนวป่าและแนวภูเขาหลังอุทยาน เสียงฟังดูน่ากลัวมาก แต่สำหรับผมเพลินดี ไม่ได้สนใจอะไร แล้วก็หลับไป ด้วยอากาศที่หนาวเย็น ผมตื่นมาอีกทีตามนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ 5:00 น. เพื่อจะได้เห็นแสงแรกของวันใหม่

ผมตื่นขึ้นมาบรรยากาศภายนอกเย็นสบาย ลมแรง ดวงดาวยังคงเต็มฟ้า ผมนั่งมองดูสักพัก แสงแรกก็ค่อยเริ่มสาดเข้ามาทางทิศตะวันออก

เป็นแสงแรกที่สวยงามพร้อมอากาศที่เย็นสบายสดชื่น หลังจากนี้ผมก็เตรียมตัวที่จะไปยังอุทยานแห่งชาติ ภูผาเทิบ เพื่อประทับตราอุทยานแห่งชาติอีก 1 อุทยาน