อินโดนีเซีย 2565
23-26 พฤศจิกายน 2565
บริษัทที่ผมทำงานอยู่มีกิจกรรมแข่งขันการปรับปรุงงานประจำทุกปี และปีนี้มี 2 ทีมที่จะต้องเดินทางไปแข่งขันยังประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันระดับภูมิภาค ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย อินเดีย และประเทศไทย พวกเราเดินทางไปอินโดนีเซียในคืนวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 โดยทางบริษัทเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
ผมเตรียมแลกเงินอินโดนีเซีย โดยใช้เงินไทย 5,000 บาท ได้เงิน รูปียะฮ์ มาประมาณ 2ล้านห้าแสน รูปียะฮ์ ตามอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินในขณะนั้น เป็นครั้งแรกที่ได้พกเงินล้านไว้ในกระเป๋าสตางค์
เรามาถึงสนามบินสุวรรณภูมิกันตอนตีห้า แต่กว่าจะเอากระเป๋าเดินทางเข้า Gate Bag ก็ต้องต่อแถวยาวรอนานเป็นชั่วโมงกันเลย
หลังจากนั้นก็รีบไปที่ Gate เพราะเครื่องใกล้ออกแล้ว ไม่มีเวลาเดินชิลล์ กันหล่ะ
เราเดินทางโดย สายการบินไทย "รักคุณเท่าฟ้า" เครื่องใหม่ๆ จริงๆ มีที่ว่างเยอะแยะบนเครื่อง แต่ก็จัดให้เรามานั่งรวมกันตรงกลางเครื่อง คงเพื่อลดเวลาหรือระยะทางการบริการภายในเครื่องเขาหล่ะ
เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ในระหว่างทางก็นั่งดูหนังไปพลางๆ แป๊ปเดียวก็ถึงแล้ว
เมื่อมาถึงสนามบินนานาชาติซูการ์โนฮัตตา เราก็ต้องวุ่นวายกับการคัดกรอง โควิด-19 เนื่องจากสายการบินให้โหลดแอพพลิเคชั่น และให้กรอกข้อมูล
เมื่อกรอกข้อมูลแล้วจะมีการยึนยันโดยส่งผ่านทางอีเมลล์ส่วนตัวอีก หลายๆ คนก็งงๆ กัน พอลงไปถึงสนามบินก็มีการให้ใช้แอพพลิเคชั่นสแกนผ่าน QR-Code ที่ตั้งไว้ให้
เราสแกนแล้วมันก็ eror ก็งงกันสิครับ จึงตัดสินใจเดินดุ่มๆ เข้าไป พบเจ้าหน้าที่ นั่งโต๊ะเรียงกันเป็นแถวหน้ากระดาน ก็นำเอกสารการฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม ไปให้ตรวจ
และก็เดินผ่านเข้าไปทาง ตม. และเข้าคิวเพื่อสัมภาษณ์ ถ้ามาเป็นหมู่คณะ ควรจะต่อเป็นแถวเดียวกันไว้ ก็จะไวขึ้น เพราะข้อมูลสถานที่เข้าพักและวัตถุประสงค์ในการเดินทางมาจะเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด
ออกมาด้านนอกสนามบินจะมีรถมารอรับ เป็นรถมินิบัส ซึ่งจะรับคนไทย และคนอินเดีย ไปยังโรงแรมด้วยกันเลย
เราแวะพักทานอาหารเที่ยงระหว่างทางกันก่อน ตรงบริเวณนี้ ไม่รู้ว่าที่ไหน แต่คลายๆ กับจุดพักรถแถวๆ บางปะกง เส้นมอเตอร์เวย์ไปชลบุรีเหมือนกันนะ
ร้านอาหารเป็นร้านอาหารจีน รสชาติถือว่าถูกปากคนไทยเลยทีเดียว มันไม่เลี่ยน มีรสชาติที่อร่อยทุกอย่างเลย เราสั่งอาหารมาทานกันเต็มโต๊ะ พร้อมกับเบียร์ของอินโดนีเซียแก้คอแห้งนิดหน่อย
กว่าจะเดินทางมาถึงโรงแรม ซึ่งเป็นโรงแรมญี่ปุ่น Asuka Hotel อยู่ในนิคม 2100 ใกล้กันกับที่ทำงาน หากเปรียบเทียบระยะทางก็น่าจะพอๆ กับ สนามบินสวรรณภูมิ ไปยังนิคมแถวระยอง ประมาณนั้นแหล่ะ
มาถึงก็เพลียกันเลยทีเดียว ก็รีบกัน Check in เข้าห้องเอากระเป๋าสัมภาระไปเก็บให้เรียบร้อยแล้วค่อยลงมาเดินเล่น
บรรยากาศห้องพัก สไคล์บาหลี ก็พอที่จะพักผ่อนได้สบายๆ คนละห้อง แต่สำหลับห้องผมนี้ ตอนกลางคืนดึกๆ จะมีเสียงคอมเพรสเซอร์ตู้เย็นมันจะดังขึ้นมากลางดึก คล้ายๆ มีใครเคาะห้อง เป็นจังหวะๆ
ผมก็เดินไปเปิดประตู ก็ไม่พบใคร ก็ต้องเดินหาต้นทางของเสียง ปรากฏว่าเสีงดังอยู่หลังตู้เย็น
บรรยากาศด้านหลังโรงแรมเป็นสระน้ำ และห้องอาหารญี่ปุ่น ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องของความเป็นออริจินอลในอาหารญี่ปุ่น และราคาไม่แพงด้วย
ตอนเย็นเราทางอาหารญี่ปุ่นกันด้านล่างของโรงแรม รวม 4 คน คิดเป็นเงินไทยประมาณพันกว่าบาท
ในตอนเช้า พนักงานโรงแรมจะนำอาหารมาเสริฟให้ถึงห้องตอน 7:00 น. เราก็อาบน้ำแต่งตัวทานอาหาร เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ลงไปข้างล่าง จะมีรถจากโรงแรมไปส่งยังโรงงาน
เมื่อทุกคนพร้อมก็เริ่มการแข่งขัน ประเทศไทยส่งไป 2 ทีม ประเทศอินเดียส่ง 3 ทีม และประเทศอินโดนีเซียเจ้าภาพ 3 ทีม
ผลการแข่งขันนำมาประกาศตอนช่วงอาหารค่ำ โดยประเทศอินเดียได้รับรางวัลที่ 1 ประเทศไทยได้รับรางวัลที่ 2 และประเทศอินโดนีเซียเจ้าภาพได้รับรางวัลที่ 3
หลังจากนั้นพวกเราก็ปาร์ตี้กันแบบสนุกสนาน คนอินโดนีเซียนับถือศาสนาอิสลามจะไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ก็ต้อนรับคนไทยและคนอินเดียอย่างเต็มที่ ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
ที่สำคัญคือ คนอินโดนีเซียชอบฟังเพลงไทยซะด้วยสิครับ
อีกวันพวกเราเข้าไปดูงานในโรงงาน หลังจากเลิกงาน พนักงานอินโดนีเซียที่เคยไปเรียนรู้งานในประเทศไทย ก็ขับรถพาพวกเรามาดื่มเบียร์ ในสานที่แห่งหนึ่ง ชื่อว่า Meikarta District 1
สถานที่นี้เหมือนลานเบียร์บ้านเรา มีเวทีแสดงคอนเสิร์ต และมีโต๊ะนั่งดื่ม และโซฟา แบบวีไอพี แต่สังเกตโดยรอบ ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาว และมีแบบมาเป็นครอบครัวนั่งทานอาหาร
หนุ่มสาวมานั่งดื่มน้ำชาและน้ำผลไม้ ไม่ค่อยเห็นคนดื่มเบียร์ นอกจากพวกเราคนไทย และคนอินเดีย
เช้านี้บริษัทเอารถมินิบัสมารับพวกเราที่โรงแรม เพื่อไปส่งยังสนามบิน เดินทางกลับกรุงเทพในช่วงกลางคืน ซึ่งระหว่างนี้จะมีพนักงานของบริษัท พาพวกเราไปเที่ยวในกรุงจาการ์ต้า
ที่พวกเราอยากไปคือ ทาร์มานมินิ
เรามาถึง ทาร์มานมินิ ในช่วงเช้า และก็เข้าไปเดินถ่ายภาพ ตอนแรกฝนก็ตกลงมาเล็กน้อย แล้วก็หยุดไป ทำให้อากาศสดชื่นและเย็นสบาย เราเพลิดเพลินกับการเดินเที่ยวถ่ายภาพกันมาก
สถานที่ท่องเที่ยวนี้ น่าจะเป็นการยกสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมพื้นเมืองของคนอินโดนีเซียแต่ละจังหวัดมารวมกันไว้ที่นี่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมกัน
บอกได้เลยครับ ว่าสวยงามตื่นตาตื่นใจมากจริงๆ ผมว่าจะให้เดินเที่ยวที่นี่ 1 วันไม่น่าจะเพียงพอ
ผมขอลาด้วยภาพของบ้านชนเผ่าในอินโดนีเซียนี้ก่อนนะครับ หลังจากเดินทางเที่ยวชมจนเกือบทั่วแล้ว เราก็นั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามกลับมายังลานจอดรถ และเดินทางไปกินอาหารเที่ยง
ก่อนที่จะเดินทางไปยังสนามบิน เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
สามารถชมคลิปวีดีโอได้ในช่องยูทูปผมนะครับ หากชอบก็กดติดตาม กดถูกใจ และกดกระดิ่ง เพื่อไม่พลาดการแจ้งเตือนคลิปต่อๆไปนะครับ หากมีข้อคิดเห็นสามารถฝากไว้ในคลิปได้เลยครับ