อุทยานผาชะนะได กางเต็นท์
อุทยานผาชะนะได กางเต็นท์
กางเต็นท์รอชมแสงแรกริมผาชะนะได

25 ธันวาคม 2565

ครั้งนี้เราจะเดินทางไปกางเต็นท์ท่องเที่ยวในจังหวัดอุบลราชธานี จุดหมายแรกเราไปเที่ยวกันที่ "สามพันโบก"และต่อด้วยการเดินทางขึ้นไปกางเต็นท์ยัง "ผาชะนะได" สถานที่นี้อยู่ในเขตอุทยานผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี ถือว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่สวยงามที่สุดในประเทศไทยอีกแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้

ผาชะนะได กางเต็นท์

การขับรถมายัง "ผาชะนะได" ไม่ใช่เรื่องลำบากมากมายอะไรนัก รถยนต์ยานพาหนะสามารถมาได้ทุกประเภทเลย เนื่องจากเป็นทางลาดยางมะตอยไปตลอดเส้นทางจนถึงลานกางเต็นท์กันเลยทีเดียว

อุปสรรค์สำคัญของการเดินทางไปกางเต็นท์ยังสถานที่แห่งนี้ น่าจะเป็นระยะทางที่ไกลมากๆ จากภาคกลาง จึงทำให้นักท่องเที่ยวมีจำนวนน้อย ส่วนนี้ก็ถือเป็นข้อดี เพราะไม่ค่อยวุ่นวาย ในเรื่องของการส่งเสียงดัง การเข้าใช้ห้องน้ำร่วมกัน ซึ่งห้องน้ำที่นี่ก็สะอาดมากๆ ผมเดินทางมาถึงที่ด่านตรวจผาชะนะได ก็ชำระค่าบริการเข้าอุทยานตรงด่านตรวจก่อนเลยครับ

ค่าเข้าชมอุทยาน

  • ผู้ใหญ่คนละ 40 บาท 
  • เด็กคนละ 20 บาท
  • รถยนต์ 30 บาท

เส้นทางจากนี้ จะจำกัดเวลาขึ้นลง เนื่องจากถนนนั้นแคบเพียงเลนเดียว การขับรถสวนกันจะลำบากมาก เพราะไม่มีที่หลบหลีก

หากมีรถยนต์ขับสวนกันจำนวนมากก็จะยากลำบากต่อการหลีกหลบให้ทางกัน และอาจเกิดอุบัติเหตุกันได้ง่าย

เวลาขี้น เพื่อเที่ยวชมผาชะนะได

  • เวลาขึ้นรอบแรก 04.30-06.30 น. 
  • รอบที่2  10.30-13.00 น. 
  • รอบที่3 16.00-18.00 น.

เวลาลงจากผาชะนะได

  • เวลาลงรอบแรก 07.30-09.30 น.
  • รอบที่2 14.00-15.00 น.
  • รอบที่3 19.00-19.30 น.

ผาชะนะได กางเต็นท์

เมื่อเราขึ้นมาถึงก็เข้าไปชำระค่ากางเต็นทอีกคนละ 30 บาท บนอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และสามารถนำสมุดบันทึกตราอุทยานมาประทับได้ที่นี่ เราจะได้ตราประทับ 2 ดวงเลย 

นั่นคือ ตราประทับของ อุทยานผาชะนะได และตราประทับของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม 

ผาชะนะได กางเต็นท์

 หลังจากนั้นเราก็จัดการหาที่กางเต็นท์ ผมสำรวจดูแล้ว พื้นที่ลานกางเต็นท์ที่นี่ใหญ่มากๆ ลานแรกเป็นลานที่อยู่ใต้ต้นไม้ ที่ผมเลือกกางเต็นท์ เนื่องจากมีเงาไม้บังแสงอาทิตย์ จะได้ไม่ร้อน

ลานที่ 2 จะเป็นลานหินโล่งแจ้ง ตรงนี้ผมดูแล้วไม่เหมาะกับการปักสมอลงไป เพราะพื้นเป็นหินทั้งหมด และการนอนน่าจะไม่สบายดัว เนื่องจากพื้นจะเป็นคลื่นขรุขระตามหิน

ลานที่3 จะอยู่ด้านในลึกไปทางน้ำตก มีห้องน้ำ เป็นลานหินเหมือนกัน มีต้นไม้ล้อมรอบ

ผมเลือกลานดิน เพราะร่มรื่นกว่า และลงสมอเต็นท์ได้ง่าย ใกล้ห้องน้ำและอาคารเจ้าหน้าที่

ผาชะนะได กางเต็นท์

หลังจากกางเต็นท์เสร็จก็ทำอะไรทานกันในมื้อเย็น แม่บ้านผมก็เตรียมเนื้อย่าง น้ำจิ้มแจ่ว พร้อมข้าวเหนียวมาด้วย 

ที่อาคารศูนย์บริการนั้น มีร้านค้าสวัสดิการ แต่ก็มีของจำหน่ายไม่มาก เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และเครื่องดื่มน้ำอัดลม มีน้ำร้อนไว้บริการด้านหน้าด้วยนะครับ 

ผาชะนะได กางเต็นท์

อาหารปิ้งย่างสามารถทำได้ แต่ห้ามก่อกองไฟลงบนพื้นดิน เพราะจะทำให้พื้นเป็นรอยไหม และเกิดเพลิงไหม้ได้ถ้าหากเราดับไฟไม่ดีพอ

เราสามารถใช้เตาย่างขนาดเล็กๆ พร้อมถ่านไร้ควัน มาทำการปิ้งย่างอาหารได้ ในลานยังมีอ่างล้างภาชนะให้ด้วย แต่ขยะเราก็ควรเก็บใส่ถุงเพื่อนำลงไปทิ้งถังขยะในชุมชนด้านล่าง

เนื่องจากอุทยานจะไม่มีพื้นที่กำจัดขยะ และรถเทศบาลก็ไม่ได้เข้ามาเก็บขยะบนนี้ด้วยนะครับ ควรนำติดตัวไปทิ้งที่ๆ เหมาะสมด้านนอกของอุทยาน 

ผาชะนะได กางเต็นท์

กลางคืนอากาศเย็น แต่ในเต็นท์เราสามคนอบอุ่นมาก ดึกๆ มีเสียงหมาหอนตอบรับกันเป็นระยะๆ เป็นเสียงสุนัขจิ้งจอกในป่า พร้อมกับเสียงลมหนาวที่พัดกรรโชกมาเป็นช่วงๆ มันก็หลอนๆ ดีเหมือนกันนะครับ 

ผมตื่นแต่ตีสาม เข้าห้องน้ำ และเตรียมตัวที่จะเดินไปชมพระอาทิตย์ขึ้น เพราะระยะทางเดินไปชมประมาณ 800 เมตร ก็เกือบ 1 กิโลเมตรเลยนะ ที่สำคัญคือ ผมไม่รู้เส้นทางเดิน ว่าต้องเดินจากตรงไหน แล้วมันก็มืดเอามากๆ ด้วยนะครับ

ประมาณตีสี่ครึ่ง ผมก็ปลุกทุกคนในเต็นท์ เพื่อเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกัน 

ผาชะนะได กางเต็นท์

เส้นทางมืดมาก ตอนแรกผมก็พาทุกคนเดินหลงทางไปอีกฝั่งทางด้านซ้ายมือ คือทางตรงน้ำตกนั่นแหละ มืดก็มืด งงๆ อยู่เหมือนกันนะครับ คิดว่าไม่ใช่ทางไปหน้าผาแน่ๆ ก็ย้อนกลับมาอีกที

แล้วเราก็เห็นป้ายบอกทางไปผาชะนะได มีรอยทางเดินชัดเจน ก็เดินสะดวกดี เราเดินคุยกันมาเรื่อยๆ สักพักหนึ่ง เราก็ถึงผาชะนะได กับแสงแรกของวันที่สวยงามสมคำร่ำลือ โดยฝั่งตรงข้ามที่มีแม่น้ำโขงขวางกั้นนั้นคือ ประเทศลาว 

ผาชะนะได กางเต็นท์

เรานั่งเล่น เดินเล่นถ่ายรูปกัน พร้อมกับรับลมหนาวที่พัดโชยมาตลอดเวลา บริเวณนี้หากโชคดีเราจะได้เห็นทะเลหมอกแบบเต็มๆ แต่วันนี้ลมแรง จึงไม่มีทะเลหมอกให้เห็น 

ผาชะนะได กางเต็นท์

ถึงจะไม่มีทะเลหมอก แต่วิวที่เห็นตรงเบื้องหน้ามันก็งดงามอยู่ดี ความสวยพร้อมบรรยากาศที่สดชื่นและหนาวเย็น หากเราไม่เดินทางมาก็ไม่มีทางจะได้รับความรู้สึกแบบนี้ได้ 

ผาชะนะได กางเต็นท์

มีนักท่องเที่ยวหลายคนที่ไม่ได้กางเต็นท์นอนที่นี่ แต่ขับรถขึ้นมาตอนเช้ามืด และนำรถไปจอดไว้ที่ลาน ต่างคนต่างเดินกันขึ้นมาชมบริเวณริมหน้าผา ผมว่ามันเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าอยู่ไม่น้อยเลย 

ผาชะนะได กางเต็นท์

แสงพระอาทิตย์ขึ้นริมหน้าผา ภาคอีสาน งดงามไม่มีที่ใดเหมือน ผาชะนะไดเป็นความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นอีกหนึ่งแห่งที่ผมได้พบ หลังจากที่เคยเห็นความงามของพระอาทิตย์ตกที่ ผาหล่มสัก บนภูกระดึง

ผาชะนะได กางเต็นท์

นอกจากแสงสวยงามของพระอาทิตย์ยามเช้า เรายังเห็นสายน้ำโขงทอดยาวสุดลูกตา กับฝั่งตรงข้ามที่เป็นประเทศลาว กับภูเขาที่สลับซับซ้อนไกลสุดสายตา 

ผาชะนะได กางเต็นท์

เส้นทางเดินขึ้นไปยังหน้าผา เราต้องเดินผ่านความมืด ให้เราสังเกตป้ายจุดกางเต็นท์2  Zone B และเดินชิดขวามือไปนะครับ อย่างเดินไปตรงกลางลาน

ผาชะนะได กางเต็นท์

จากภาพ ให้เราเดินเลาะมาตามขวามือของลาน ก็คือ ด้านซ้ายของภาพนั่นแหละ ภาพนี้ผมถ่ายตอนขาเดินกลับ เนื่องจากตอนไปมันมืดมากครับ

ผาชะนะได กางเต็นท์

เมื่อเราเดินเลาะมาทางขวามือเรา จะเห็นช่องทางที่มีป้ายชี้ขึ้นไปยังผาชะนะได จากตรงป้ายนี้ ประมาณ 700 เมตร

หากคุณมีโอกาสได้เดินทางมาจังหวัดอุบลราชธานี และมีเวลาเพียงพอกับการท่องเที่ยว ผาชะนะได เป็นอีกหนึ่งแห่งที่คุณไม่ควรพลาดที่จะมาชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า

ค่าเข้าชมอุทยานผาชะนะได

  • ผู้ใหญ่คนละ 40 บาท
  • เด็กคนละ 20 บาท
  • รถยนต์ 4 ล้อคันละ 30 บาท
  • ค่ากางเต็นท์ คนละ 30 บาท/คน/คืน

แผนที่

https://goo.gl/maps/JcugKX3c5AwBWA9M7